เวอร์ชั่น Android มีอะไรบ้าง

 เวอร์ชั่น Android มีอะไรบ้าง

การพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android เริ่มต้นในปี 2546 โดย Android, Inc. ต่อมา Google ซื้อกิจการในปี 2548 Android OS รุ่นเบต้าเปิดตัวเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 ในขณะที่ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) เป็น ออกเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2550

มือถือ Android เครื่องแรกเปิดตัวสู่สาธารณะพร้อมกับ Android 1.0 ของ T-Mobile G1 (หรือที่รู้จักในชื่อ HTC Dream) ในเดือนตุลาคม 2008

Google ประกาศในเดือนสิงหาคม 2019 ว่าพวกเขากำลังยุติโครงการทำขนม และใช้การเรียงลำดับตัวเลขสำหรับเวอร์ชัน Android ในอนาคต

Android เวอร์ชันแรกซึ่งเปิดตัวในรูปแบบลำดับตัวเลขคือ Android 10

Android versions, name, and API level

Code name	Version numbers	API level	Release date
No codename	1.0	1	September 23, 2008
No codename	1.1	2	February 9, 2009
Cupcake	1.5	3	April 27, 2009
Donut	1.6	4	September 15, 2009
Eclair	2.0 - 2.1	5 - 7	October 26, 2009
Froyo	2.2 - 2.2.3	8	May 20, 2010
Gingerbread	2.3 - 2.3.7	9 - 10	December 6, 2010
Honeycomb	3.0 - 3.2.6	11 - 13	February 22, 2011
Ice Cream Sandwich	4.0 - 4.0.4	14 - 15	October 18, 2011
Jelly Bean	4.1 - 4.3.1	16 - 18	July 9, 2012
KitKat	4.4 - 4.4.4	19 - 20	October 31, 2013
Lollipop	5.0 - 5.1.1	21- 22	November 12, 2014
Marshmallow	6.0 - 6.0.1	23	October 5, 2015
Nougat	7.0	24	August 22, 2016
Nougat	7.1.0 - 7.1.2	25	October 4, 2016
Oreo	8.0	26	August 21, 2017
Oreo	8.1	27	December 5, 2017
Pie	9.0	28	August 6, 2018
Android 10	10.0	29	September 3, 2019
Android 11	11	30	September 8, 2020

Android Version 1.0 to 1.1: No codename

Android เผยแพร่ Android เวอร์ชัน 1.0 อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2008 ซึ่งเป็นเวอร์ชันเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Android รองรับเว็บเบราว์เซอร์เพื่อแสดงหน้าเว็บ HTML และ XHTML กล้อง เข้าถึงเว็บเซิร์ฟเวอร์อีเมล (POP3, IMAP4 และ SMTP) เวอร์ชันนี้ประกอบด้วย Google ปฏิทิน, Google Maps, Google Sync, Google Search, Google Talk, ข้อความโต้ตอบแบบทันที, เครื่องเล่นมีเดีย, การแจ้งเตือนปรากฏในแถบสถานะ, วอลเปเปอร์, เครื่องเล่นวิดีโอ YouTube, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, ตัวเรียกเลขหมาย, รูปภาพ (คลังภาพ), Wi - รองรับ Fi และ Bluetooth

Android version 1.5: Cupcake

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2552 Android ได้อัปเดตเป็น 1.5 ด้วยชื่อรหัสของรายการของหวาน (Cupcake) มีเคอร์เนลลินุกซ์ 2.6.27 รองรับแป้นพิมพ์เสมือนของบริษัทอื่น, การบันทึกและเล่นวิดีโอในรูปแบบ MPEG-4, คัดลอกและวาง, การแปลหน้าจอเคลื่อนไหว, ตัวเลือกการหมุนอัตโนมัติ, ความสามารถในการอัปโหลดวิดีโอไปยัง YouTube, อัปโหลดรูปภาพไปยัง Picasa, ตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์

Android version 1.6: Donut

เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552 Android 1.6 ได้รับการเผยแพร่ในชื่อ Donut ประกอบด้วยคุณสมบัติใหม่มากมาย เช่น การค้นหาการป้อนด้วยเสียงและข้อความ ประวัติบุ๊กมาร์ก ผู้ติดต่อ เว็บ "พูด" สตริงข้อความ เข้าถึงกล้องได้เร็วขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกภาพถ่ายหลายภาพเพื่อลบ รองรับเครื่องมืออ่านข้อความเป็นคำพูด หน้าจอ WVGA ความละเอียด

Android version 2.0 to 2.1: Eclair

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2552 ได้เปิดตัว Android 2.0 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า Eclair มันขึ้นอยู่กับเคอร์เนล Linux 2.6.29 ประกอบด้วยคุณสมบัติใหม่หลายอย่างเช่นการซิงค์บัญชีแบบขยาย, รองรับอีเมล Microsoft Exchange, บลูทู ธ 2.1, ความสามารถในการแตะรูปภาพผู้ติดต่อและเลือกโทร, SMS, ความสามารถในการค้นหา SMS ที่บันทึกไว้ทั้งหมด, ข้อความ MMS, ลบข้อความที่เก่าที่สุดโดยอัตโนมัติเมื่อกำหนด ถึงขีดจำกัดแล้ว, Minor API, การแก้ไขข้อผิดพลาด

Android version 2.2 to 2.2.3: Froyo

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2010 Android 2.2 (Froyo) ได้รับการเผยแพร่โดยใช้เคอร์เนล Linux 2.6.32 ประกอบด้วยคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ความเร็ว หน่วยความจำ การเพิ่มประสิทธิภาพ การรวบรวม JIT, การรวม V8 ของ Chrome, เอ็นจิ้น JavaScript ลงในแอปพลิเคชันเบราว์เซอร์, รองรับบริการ Android Cloud to Device Messaging, รองรับ Adobe Flash, การอัปเดตความปลอดภัย และการปรับปรุงประสิทธิภาพ

Android version 2.3 to 2.3.7: Gingerbread

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2010 Android 2.3 (Gingerbread) ได้รับการเผยแพร่โดยใช้เคอร์เนล Linux 2.6.35 โดยมีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้: รองรับขนาดและความละเอียดหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ การออกแบบส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่อัปเดตด้วยความเรียบง่ายและความเร็วที่เพิ่มขึ้น ฟังก์ชันการคัดลอก/วางที่ได้รับการปรับปรุง เลือกคำโดยการกดค้างไว้ รองรับ Near Field Communication (NFC) การจำลองเสมือนของหูฟัง , ตัวจัดการการดาวน์โหลดใหม่

มีการปรับปรุงการแก้ไขข้อผิดพลาดสำหรับ Nexus S, การแชทด้วยเสียงหรือวิดีโอโดยใช้ Google Talk, ประสิทธิภาพเครือข่ายสำหรับ Nexus S 4G, แอปพลิเคชัน Gmail, ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่, แก้ไขข้อผิดพลาดในการค้นหาด้วยเสียง, รองรับ Google Wallet สำหรับ Nexus S 4G

Android version 3.0 to 3.2.6: Honeycomb

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2011 Android 3.0 (Honeycomb) ได้เปิดตัวสำหรับแท็บเล็ตเครื่องแรกสำหรับ Android ที่ใช้เคอร์เนล Linux 2.6.36 ประกอบด้วยคุณลักษณะต่างๆ เช่น อินเทอร์เฟซผู้ใช้ "โฮโลแกรม" สำหรับแท็บเล็ต เพิ่มแถบระบบ การแตะแอปพลิเคชันล่าสุดแบบมัลติทาสก์ที่ง่ายขึ้นในแถบระบบ ออกแบบแป้นพิมพ์ใหม่เพื่อให้พิมพ์ได้รวดเร็ว เข้าถึงการเปิดกล้องอย่างรวดเร็ว การเร่งด้วยฮาร์ดแวร์ รองรับโปรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ UI การปรับแต่ง, การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม USB, รองรับจอยสติ๊กและเกมแพด, ล็อค Wi-Fi ประสิทธิภาพสูง, การสนับสนุนฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการปรับปรุง, Google หนังสือ, แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อข้อมูลเมื่อออกจากโหมดเครื่องบิน

Android version 4.0 to 4.0.4: Ice Cream Sandwich

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2011 ได้เปิดตัว Android 4.0.1 (Ice Cream Sandwich) ซึ่งใช้ Linux kernel 3.0.1 เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่สนับสนุน Adobe System Flash player อย่างเป็นทางการ แนะนำคุณสมบัติใหม่มากมาย: การปรับแต่งอินเทอร์เฟซ "Holo" ด้วยตระกูลฟอนต์ Roboto ใหม่ การแยกวิดเจ็ตในแท็บใหม่ การจับภาพหน้าจอแบบบูรณาการ การแก้ไขข้อผิดพลาดบนแป้นพิมพ์ที่ได้รับการปรับปรุง ฟังก์ชันการคัดลอกและวางที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น โปรแกรมแก้ไขภาพในตัว แก้ไขข้อบกพร่องเล็กน้อย ปรับปรุงกราฟิก ตรวจการสะกด ประสิทธิภาพของกล้องดีขึ้น

Android version 4.1 to 4.3.1: Jelly Bean

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555 Google ได้ประกาศ Android 4.1 (Jelly Bean) ในการประชุม Google I/O มันขึ้นอยู่กับเคอร์เนลลินุกซ์ 3.0.31 อัปเดตเป็นคุณลักษณะต่อไปนี้: ส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ปรับปรุงการเข้าถึง การแจ้งเตือนที่ขยายได้ แก้ไขข้อบกพร่องใน Nexus 7 ท่าทางนิ้วเดียวเพื่อขยาย/ยุบการแจ้งเตือน การปรับปรุงหน้าจอเมื่อล็อก บัญชีผู้ใช้หลายบัญชี (เฉพาะแท็บเล็ตเท่านั้น) แอปพลิเคชันนาฬิกาใหม่ บลูทูธต่ำ รองรับพลังงาน, ระดับเสียงสำหรับสายเรียกเข้า, รองรับความละเอียด 4K, รองรับอีโมจิดั้งเดิม, แก้ไขข้อบกพร่องสำหรับ Nexus 7 LTE

Android version 4.4 to 4.4.4: KitKat

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 Google ได้เปิดตัว Android 4.4 (KitKat) เริ่มแรกมีชื่อรหัสว่า "Key Lime Pie" Google เริ่มใช้งาน Nexus 5 ของ Google เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2013 จำนวน RAM ขั้นต่ำที่ต้องมีสำหรับ Android คือ 340 MB อุปกรณ์อื่นๆ ที่มี RAM น้อยกว่า 512 MB ต้องรายงานว่าตัวเองเป็นอุปกรณ์ที่มี "แรมต่ำ" ประกอบด้วยคุณลักษณะใหม่หลายอย่าง เช่น นาฬิกาไม่แสดงชั่วโมงที่เป็นตัวหนาอีกต่อไป ความสามารถในการพิมพ์แบบไร้สาย WebViews ใช้ Chromium engine, การจัดชุดเซ็นเซอร์, คุณลักษณะการบันทึกหน้าจอในตัว, ความเข้ากันได้ของแอปพลิเคชันที่ดีขึ้น, แอปพลิเคชันกล้องโหลด Google+ Photo แทนแกลเลอรี

Android version 5.0 to 5.1.1: Lollipop

Android 5.0 "Lollipop" เดิมชื่อ "Android L" เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2014 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2014 Lollipop มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่ออกแบบใหม่ รองรับ CPU 64 บิต รองรับการแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ วัสดุ การออกแบบ, Project Volta สำหรับการปรับปรุงอายุแบตเตอรี่, บัญชีผู้ใช้หลายบัญชี, อินพุตเสียงและเอาต์พุตผ่านอุปกรณ์ USB, เข้าร่วมเครือข่าย Wi-Fi, รองรับซิมการ์ดหลายใบ, การปกป้องอุปกรณ์, การโทรด้วยเสียงความละเอียดสูง, รองรับการโทร Wi-Fi ดั้งเดิม

Android version 6.0 - 6.0.1: Marshmallow

Android 6.0 "Marshmallow" ได้รับการเปิดเผยภายใต้ชื่อรหัสว่า "Android M" เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2015 สำหรับโทรศัพท์ Nexus 5 และ Nexus 6 แท็บเล็ต Nexus 9

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 Android ได้เผยแพร่ "Marshmallow" สำหรับอุปกรณ์ Android ทั้งหมด ประกอบด้วยคุณสมบัติใหม่ต่างๆ เช่น ฟีเจอร์สแตนด์บายแอป แนะนำโหมด Doze เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ รองรับตัวอ่านลายนิ้วมือดั้งเดิม คำขออนุญาตรันไทม์ รองรับ USB-C รองรับ Unicode 7.0 และ 8.0 อิโมจิ

Android version 7.0 to 7.1.2: Nougat

Android 7.0 "Nougat" เป็นรุ่นหลักสำหรับระบบปฏิบัติการ Android ชื่อรหัสเริ่มต้นคือ "Android N" เปิดตัวครั้งแรกในฐานะตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2016 พร้อมอิมเมจจากโรงงานสำหรับอุปกรณ์ Nexus

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 การแสดงตัวอย่างขั้นสุดท้ายได้รับการเผยแพร่ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้: การเข้ารหัสตามไฟล์, ซูมเข้าหน้าจอ, รองรับหลายหน้าต่าง, โหมด Data Saver ใหม่, คอมไพเลอร์ JIT ทำให้การติดตั้งแอพเร็วขึ้น 75 เปอร์เซ็นต์, แสดงภาพซ้อนภาพ รองรับ, รองรับ API ผู้จัดการ, รองรับไอคอนแอพวงกลม, ส่ง GIF โดยตรงจากแป้นพิมพ์เริ่มต้น, การแจ้งเตือนการใช้แบตเตอรี่

Android version 8.0 to 8.1: Oreo

Android 8.0 "Oreo" เป็นระบบปฏิบัติการ Android รุ่นหลักรุ่นที่ 8 เปิดตัวครั้งแรกสำหรับการแสดงตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2017 ภาพตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ขั้นสุดท้ายได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2017

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2017 เวอร์ชันเสถียรได้รับการเผยแพร่พร้อมคุณสมบัติหลายประการ: รองรับภาพซ้อนภาพ, รองรับ Unicode 10.0 emoji (5.0), การตั้งค่าที่ปรับโครงสร้างใหม่, ไอคอนนำมาใช้, ช่องแจ้งเตือน, จุดแจ้งเตือน, เวลาบูตเร็วขึ้น 2 เท่า, Google Play Protect, รองรับการพิมพ์ในตัว, Neural network API, API หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน, Android Oreo Go Edition, กรอบงานป้อนอัตโนมัติ, แสงอัตโนมัติ และธีมสีเข้ม

Android version 9.0: Pie

Android 9.0 "Pie" เป็นเวอร์ชันหลักที่เก้าของระบบปฏิบัติการ Android Google ประกาศและเปิดตัวตัวอย่างครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2018 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2018 โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้: นาฬิกาเลื่อนไปทางซ้ายของแถบการแจ้งเตือน ปุ่ม "สกรีนช็อต" ถูกเปลี่ยน เพิ่มเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่จะแสดงบนจอแสดงผลเสมอ

Android version 10:

Android 10 เป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันที่ 10 ที่ครอบคลุม Android 10 ได้รับการพัฒนาภายใต้ชื่อรหัสว่า "Android Q" Google ประกาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2019 และรุ่นเบต้าแรกเปิดตัวในวันเดียวกัน และเบต้าที่สองเปิดตัวในวันที่ 3 เมษายน 2019

Android 10 เวอร์ชันเสถียรเปิดตัวเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2019 โดยมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การอนุญาตใหม่ในการเข้าถึงตำแหน่งในเบื้องหลัง แผงการตั้งค่าแบบลอย รองรับตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ AV1 รองรับการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ รองรับการรักษาความปลอดภัย WPA3 Wi-Fi .

Android 11

ระบบปฏิบัติการ Android 11 เป็น Android รุ่นใหญ่รุ่นที่สิบเอ็ด เป็นระบบปฏิบัติการมือถือ Android รุ่นที่ 18 ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2020 ระบบการตั้งชื่อตามตัวอักษรของ Android ตามทะเลทรายหยุดลงตั้งแต่ Android 10 ดังนั้นระบบปฏิบัติการนี้จึงมีตราสินค้าว่า "Android 11"

คุณลักษณะที่รวมอยู่ใน Android 11

การสนทนา: รับข้อความทั้งหมดของคุณในที่เดียว

การเข้าถึง: แอพที่เข้าใจได้ช่วยให้เราควบคุมและนำทางโทรศัพท์ของเราโดยใช้คำสั่งเสียง

การควบคุมอุปกรณ์: Android 11 ช่วยให้เราควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ (IOT) ทั้งหมดได้จากจุดเดียว

การจับภาพเนื้อหา: Android 11 มาพร้อมกับคุณสมบัติการบันทึกหน้าจอที่บันทึกกิจกรรมบนหน้าจอปัจจุบันของโทรศัพท์

เครื่องมือคาดการณ์: โดยทำนายนิสัยและรูปแบบการทำงานของเรา

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย: Android 11 ให้การแก้ไขความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมแก่สมาร์ทโฟนของเราโดยตรงจาก Google Play

สื่อ: เราสามารถเล่นเพลงจากอุปกรณ์อื่นที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของเรา

Credit : https://www.javatpoint.com/android-versions